
เมื่อพูดถึงงานก่อสร้าง งานอุตสาหกรรม หรืองาน DIY ต่างๆ ตะแกรงเหล็กเป็นหนึ่งในวัสดุที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากความแข็งแรง ทนทาน และความยืดหยุ่นในการใช้งาน แต่สำหรับคนทั่วไปที่ไม่เคยซื้อหรือใช้งานตะแกรงเหล็กมาก่อน อาจเกิดคำถามว่า
“ตะแกรงเหล็กรับน้ำหนักได้เท่าไหร่? แล้วเราควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับงานของเรา?”
บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับการรับน้ำหนักของตะแกรงเหล็ก รวมถึงวิธีเลือกตะแกรงที่ถูกต้อง เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการใช้งานของคุณ
1. ตะแกรงเหล็กคืออะไร? ทำไมต้องสนใจเรื่องรับน้ำหนัก?
ตะแกรงเหล็ก (Steel Grating หรือ Steel Mesh) คือโครงสร้างที่ทำจากลวดเหล็กถักหรือตัดเป็นช่องตาข่าย มีหลายรูปแบบ เช่น
- ตะแกรงอาร์ค (Welded wire mesh)

- ตะแกรงสาน (Crimped mesh)

- ตาข่ายถัก (Chain link mesh)

การรับน้ำหนักของตะแกรงเหล็กเป็นเรื่องสำคัญเพราะจะบ่งบอกว่าตะแกรงนั้นๆ สามารถรองรับแรงกดหรือแรงกระทำจากภายนอกได้มากแค่ไหน หากเลือกผิดประเภทหรือขนาดตะแกรงที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดความเสียหาย หรืออันตรายได้
2. ปัจจัยหลักที่มีผลต่อความสามารถในการรับน้ำหนักของตะแกรงเหล็ก
2.1 ขนาดเส้นลวด (Wire Diameter)
เส้นลวดที่หนากว่าจะมีความแข็งแรงและรับแรงได้มากกว่า เช่น ลวดเหล็กขนาด 4 มม. จะรับแรงได้มากกว่าลวด 2.5 มม. อย่างชัดเจน
ตัวอย่าง:
- ลวด 2 มม. เหมาะกับงานเบา

- ลวด 3-4 มม. เหมาะกับงานที่ต้องรับน้ำหนักปานกลางถึงหนัก

2.2 ขนาดช่องตา (Mesh Size)

- ขนาดช่องตาหรือช่องว่างระหว่างลวดส่งผลต่อการกระจายแรงตลอดแผ่นตะแกรง ช่องตาเล็กจะช่วยกระจายน้ำหนักได้ดีและทำให้รับแรงได้มากขึ้น ส่วนช่องตาที่กว้างเกินไปอาจทำให้รับแรงกดกระจายไม่ดีและมีโอกาสเสียหายสูงกว่า
2.3 รูปแบบและชนิดของตะแกรงเหล็ก
- ตะแกรงอาร์ค (Welded Wire Mesh):


ลักษณะเด่น:
-เส้นลวดดัดโค้งก่อนเชื่อม โครงสร้างแข็งแรง
-เน้นการกระจายแรง และรับแรงกดได้ดี
รับน้ำหนัก:
-รับน้ำหนักได้สูง เหมาะกับงานโครงสร้าง เช่น ฝ้าเพดาน กำแพงใส่หิน
- ตะแกรงสาน (Woven Mesh):

- ลักษณะเด่น:
-เส้นลวดไขว้สานกัน มีความยืดหยุ่นและดูเรียบร้อย
-ตัดง่าย ดัดโค้งง่าย เหมาะกับงานทั่วไป
- รับน้ำหนัก:
-รับน้ำหนักได้ปานกลาง
-ใช้ได้กับงานกรงสัตว์ ชั้นวางของเบา งานตกแต่ง DIY
- ตาข่ายถัก (Chain Link Mesh):

- ลักษณะเด่น:
-ลวดถักเป็นรูปข้าวหลามตัด โปร่ง ระบายลมดี
-ม้วนเก็บง่าย ติดตั้งสะดวก
- รับน้ำหนัก:
-ไม่เหมาะกับการรับน้ำหนักแนวดิ่ง
-ส่วนใหญ่ใช้สำหรับงานกั้นรั้ว กรงสัตว์ หรือแบ่งพื้นที่เท่านั้น
2.4 คุณสมบัติวัสดุและการเคลือบผิว
- เหล็กกล้าแรงดึงสูง (High Tensile Steel) จะรับน้ำหนักได้ดีกว่าเหล็กทั่วไป
- การชุบสังกะสี หรือเคลือบ PVC ช่วยป้องกันสนิม ทำให้ตะแกรงมีอายุการใช้งานนานขึ้นโดยไม่สูญเสียความแข็งแรง
3. วิธีเลือกตะแกรงเหล็กให้เหมาะกับงานของคุณ
3.1 กำหนดวัตถุประสงค์การใช้งานให้ชัดเจน
- หากต้องการรับน้ำหนักมาก เช่น พื้นทางเดินชั่วคราว หรือชั้นวางของ ควรเลือกตะแกรงอาร์คที่มีเส้นลวดหนา
- สำหรับงานกั้นรั้ว หรือกรงสัตว์ เลือกตาข่ายถัก หรือ ตะแกรงสานที่รับน้ำหนักน้อยกว่าได้
3.2 ประเมินน้ำหนักและแรงกระทำที่ตะแกรงจะต้องรับ
- น้ำหนักวัตถุหรือบุคคลที่ต้องการรองรับ
- แรงกระทำจากสภาพแวดล้อม เช่น ลม ฝน น้ำหนักหิมะ (ถ้ามี)
3.3 เลือกขนาดเส้นลวดและช่องตาให้เหมาะสม
- ขนาดเส้นลวดใหญ่และช่องตาเล็ก จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและการกระจายแรงได้ดี
- แต่ถ้าต้องการความโปร่งหรือการระบายอากาศ ช่องตาอาจต้องใหญ่ขึ้น
3.4 เลือกวัสดุและการเคลือบที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
- ใช้ลวดชุบสังกะสีหรือเคลือบ PVC สำหรับงานภายนอก เพื่อป้องกันสนิม
- งานในร่มหรือภายในควรเลือกวัสดุตามความเหมาะสมและงบประมาณ
4. เคล็ดลับและคำแนะนำเพิ่มเติม
- อย่าซื้อแบบถูกที่สุดเสมอไป เพราะอาจไม่ได้คุณภาพและรับน้ำหนักไม่พอ
- ตรวจสอบสเปคจากโรงงานผู้ผลิต ให้แน่ใจว่าตะแกรงได้มาตรฐานและผ่านการทดสอบแล้ว
- หากใช้งานเชิงโครงสร้างสำคัญ ควรปรึกษาวิศวกร เพื่อคำนวณแรงรับน้ำหนักและความปลอดภัย
5. สรุป
การเลือกตะแกรงเหล็กรับน้ำหนักได้เท่าไหร่และเหมาะกับงานไหน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ ขนาดเส้นลวด ขนาดช่องตา ระยะพาด รูปแบบของตะแกรง และวัสดุที่ใช้ผลิต การทำความเข้าใจและเลือกให้ถูกต้อง จะช่วยให้งานของคุณแข็งแรง ปลอดภัย และคุ้มค่ากับการลงทุน
หากสนใจลวดตะแกรงเหล็ก บริษัท กรุงเทพ ไวร์เวิร์ค จำกัด ยินดีให้บริการ เรามีความเชี่ยวชาญในเรื่องลวดและรั้วตาข่ายมายาวนานกว่า40ปี ไม่ว่าจะเป็น ตะแกรงอาร์ค ตะแกรงสาน ตาข่ายถัก หรือตาข่ายสำเร็จรูป ก็สามารถทักเข้ามาติดต่อสอบถามได้ครับ
ติดต่อสอบถาม
Line Official : @Bkkww (https://lin.ee/gINI4hk)
Facebook : Facebook
เบอร์ติดต่อ : 02-219-4777,090-992-3131(คุณเค้ก)
บริษัท กรุงเทพ ไวร์เวิร์ค จำกัด