ในโรงงานอุตสาหกรรมหรือพื้นที่ที่มีเครื่องจักรไฟฟ้าทำงานตลอดเวลา มักมีการติดตั้ง “ตะแกรงเหล็ก” จำนวนมาก ทั้งในส่วนของพื้นทางเดิน, รั้วกันเครื่องจักร, ตะแกรงระบายอากาศ หรือโครงป้องกันชิ้นส่วนเคลื่อนไหว

แต่รู้หรือไม่ว่า — ตะแกรงเหล็กเหล่านี้สามารถเป็นตัวนำไฟฟ้าได้เต็มรูปแบบ! ⚡ และหากไม่ได้ติดตั้งระบบ “กราวด์” (Grounding) ที่ถูกต้องไว้ แผ่นตะแกรงอาจกลายเป็น ตัวสะสมประจุไฟฟ้าสถิต หรือทางผ่านของกระแสไฟรั่ว ได้โดยไม่รู้ตัว

วันนี้เราจะพามาเข้าใจว่า “ทำไมต้องระวังการใช้ตะแกรงเหล็กในงานเครื่องจักร” และวิธีป้องกันให้ปลอดภัยตามหลักวิศวกรรมไฟฟ้าครับ 👇


⚡ 1️⃣ ทำไมตะแกรงเหล็กจึงนำไฟฟ้าได้?

เพราะเหล็กเป็นโลหะที่มี “อิเล็กตรอนอิสระ” อยู่จำนวนมาก ทำให้สามารถนำกระแสไฟฟ้าได้ดีพอ ๆ กับทองแดงหรืออะลูมิเนียม เมื่อตะแกรงเหล็กสัมผัสกับเครื่องจักร, สายไฟ, หรือโครงสร้างที่มีไฟรั่ว กระแสไฟสามารถไหลผ่านตะแกรงไปยังจุดอื่นได้ทันที

โดยเฉพาะในกรณีต่อไปนี้ 👇

  • เครื่องจักรมีไฟรั่วเล็กน้อย (Leak Current)
  • พื้นที่มีความชื้นสูง เช่น โรงงานอาหาร, โรงน้ำแข็ง, หรือบริเวณล้างชิ้นงาน
  • คนเดินเหยียบตะแกรงที่ต่อกับโครงเหล็กอื่นโดยตรง

อาการเหล่านี้อาจทำให้เกิด “ไฟดูด”, “ไฟฟ้าสถิตสะสม” หรือ “ช็อตเครื่องจักร” ได้


⚙️ 2️⃣ ระบบกราวด์ (Grounding) คืออะไร

การกราวด์ (Grounding) คือการต่อสายไฟหรือตัวนำลงดิน
เพื่อระบายประจุไฟฟ้าที่รั่วหรือตกค้างในโครงโลหะออกสู่พื้นดินอย่างปลอดภัย

ในงานตะแกรงเหล็ก ระบบกราวด์มักทำโดยการ

  • เชื่อมสายทองแดงจากตะแกรงเข้ากับจุดกราวด์ของเครื่องจักร
  • หรือยึดด้วยแคลมป์ทองเหลืองเข้ากับโครงหลักที่มีการกราวด์อยู่แล้ว

เมื่อเกิดไฟรั่ว กระแสจะไหลลงดินทันที แทนที่จะวิ่งผ่านคนหรือเครื่องมือใกล้เคียง


🏗️ 3️⃣ จุดที่ “ต้องกราวด์” ตะแกรงเหล็กเสมอ

✅ ตะแกรงพื้นรอบเครื่องจักร
✅ ตะแกรงปิดพัดลม / ครอบใบพัด
✅ ตะแกรงป้องกันบริเวณมอเตอร์และแผงควบคุมไฟฟ้า
✅ ตะแกรงเหล็กติดตั้งในพื้นที่เปียก / มีไอน้ำ
✅ ตะแกรงครอบสายพาน หรือส่วนหมุนความเร็วสูง

💬 หลักง่าย ๆ คือ:
ถ้าตะแกรงอยู่ใกล้ไฟฟ้า / เครื่องจักร / ความชื้น → ต้องกราวด์ทุกครั้ง


🧱 4️⃣ ตะแกรงชนิดไหน “เหมาะกับงานเครื่องจักร”

ชนิดตะแกรงเหมาะกับงานหมายเหตุ
ตะแกรงอาร์ค (Welded Mesh)ครอบเครื่องจักร / ทางเดินแข็งแรง ทนแรงกระแทก
ตะแกรงสานสแตนเลส (Woven Mesh)ครอบพัดลม / กรองอากาศไม่เป็นสนิม เหมาะในพื้นที่เปียก
ตะแกรงไวร์เมช (Wire Mesh)พื้นทางเดิน / ทางลาดต้องต่อกราวด์เป็นระยะ

💡 ถ้าพื้นที่มีสารเคมีหรือความชื้นสูง → แนะนำใช้ สแตนเลส 304 หรือ 316
เพราะปลอดสนิมและคงค่าการนำไฟฟ้าได้ดี


🧰 5️⃣ วิธีตรวจสอบตะแกรงกราวด์เบื้องต้น

1️⃣ ใช้มิเตอร์วัดความต่อเนื่องไฟฟ้า (Continuity Tester)
→ ถ้าค่าต้านทานต่ำกว่า 1 โอห์ม แสดงว่าต่อกราวด์ดี

2️⃣ ตรวจดูจุดต่อระหว่างแผ่นตะแกรงและสายกราวด์
→ ต้องแน่น ไม่มีสนิมหรือคราบออกไซด์

3️⃣ ตรวจสอบระบบกราวด์รวมของอาคารปีละ 1 ครั้ง
→ เพื่อให้แน่ใจว่าค่าความต้านทานรวมไม่เกิน 5 โอห์ม (ตาม มอก.)


🧠 สรุปส่งท้าย

ตะแกรงเหล็ก = ตัวนำไฟฟ้า ดังนั้นในงานที่มีเครื่องจักรหรือไฟฟ้าทำงานใกล้กัน ต้องมีการ “กราวด์” และ “ตรวจสอบการต่อกราวด์” อย่างสม่ำเสมอ การกราวด์ที่ถูกต้องไม่เพียงช่วยป้องกันไฟดูด แต่ยังช่วยลดปัญหาไฟฟ้าสถิตยืดอายุเครื่องจักร และทำให้ระบบไฟในโรงงานทำงานได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น ⚙️

หากสนใจลวดตะแกรงเหล็ก บริษัท กรุงเทพ ไวร์เวิร์ค จำกัด ยินดีให้บริการ เรามีความเชี่ยวชาญในเรื่องลวดและรั้วตาข่ายมายาวนานกว่า40ปี ไม่ว่าจะเป็น ตะแกรงอาร์ค ตะแกรงสาน ตาข่ายถัก หรือตาข่ายสำเร็จรูป ก็สามารถทักเข้ามาติดต่อสอบถามได้ครับ


ติดต่อสอบถาม

Line Official : @Bkkww (https://lin.ee/gINI4hk)

Facebook : Facebook

เบอร์ติดต่อ : 02-219-4777,090-992-3131(คุณเค้ก)

บริษัท กรุงเทพ ไวร์เวิร์ค