คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมลวดที่คุณซื้อมาใช้งานในประเทศไทย โดยเฉพาะ “ลวดชุบกัลวาไนซ์” หรือ “ลวดสังกะสี” ถึงมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่ตรงกับตารางเบอร์ลวด BWG (Birmingham Wire Gauge) ที่คุณเคยศึกษามา? เช่น ลวดเบอร์ 10 ที่มักจะระบุว่ามีขนาด 3.2 มม. ในขณะที่ตาราง BWG สากลบอกว่าคือ 3.4 มม. ความสับสนนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก และคุณไม่ได้เข้าใจผิดไปเอง! บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจถึงที่มาที่ไปของ “มาตรฐานเบอร์ลวด” ในประเทศไทย เพื่อให้คุณเลือกใช้ลวดได้อย่างมั่นใจและแม่นยำยิ่งขึ้น

เบอร์ลวดคืออะไร? ทำไมต้องมีระบบเบอร์ลวด?

ก่อนอื่น มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า “เบอร์ลวด” หรือ “Wire Gauge” คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร เบอร์ลวดเป็นระบบที่ใช้กำหนดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของลวด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกในการระบุขนาดและเปรียบเทียบความหนาของลวดแต่ละเบอร์ ไม่ต้องระบุเป็นมิลลิเมตรหรือนิ้วที่อาจมีทศนิยมหลายตำแหน่ง ทำให้การสื่อสารในอุตสาหกรรมง่ายขึ้น

ระบบเบอร์ลวดที่ใช้กันแพร่หลายทั่วโลกมีหลายระบบ ได้แก่:

  • BWG (Birmingham Wire Gauge): เป็นระบบที่ใช้กันแพร่หลายในอเมริกาสำหรับลวดเหล็กและตะแกรง รวมถึงถูกนำมาใช้ในประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่
  • SWG (Standard Wire Gauge): เป็นระบบที่ใช้ในอังกฤษและประเทศในเครือจักรภพ
  • AWG (American Wire Gauge): เป็นระบบหลักที่ใช้อธิบายขนาดของสายไฟฟ้าในอเมริกาเหนือ

โดยทั่วไปแล้ว ในระบบ BWG และ SWG ยิ่งตัวเลขเบอร์น้อย ลวดจะยิ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่ขึ้น ในทางกลับกัน สำหรับ AWG ยิ่งตัวเลขมาก ลวดจะยิ่งบางลง

BWG กับประเทศไทย: การนำมาปรับใช้ที่สร้าง “มาตรฐานเฉพาะ”

แม้ว่าประเทศไทยจะนำระบบ BWG มาใช้เป็นหลักในการอ้างอิงเบอร์ลวดสำหรับผลิตภัณฑ์ลวดเหล็กและลวดชุบกัลวาไนซ์ แต่เมื่อเวลาผ่านไป การปฏิบัติในอุตสาหกรรมและการผลิตในประเทศได้สร้าง “มาตรฐานปฏิบัติ” ที่แตกต่างจากค่า BWG สากลเล็กน้อย

ปัจจัยที่ทำให้เกิดความแตกต่างนี้ ได้แก่:

  1. การปรับขนาดตามการใช้งานและวัตถุดิบในประเทศ: ผู้ผลิตในไทยอาจมีการปรับขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของลวดให้เหมาะสมกับเครื่องจักร วัตถุดิบที่หาได้ในประเทศ หรือความต้องการเฉพาะของตลาดไทย ซึ่งอาจไม่ได้ยึดตามค่า BWG ดั้งเดิมจากต่างประเทศอย่างเคร่งครัด
  2. ค่าความคลาดเคลื่อนในการผลิต (Tolerances): ลวดทุกชนิดมีค่าความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ในการผลิต แต่การที่ขนาดที่ต่างจาก BWG สากลกลายเป็นที่แพร่หลาย บ่งชี้ว่านี่ไม่ใช่แค่ความคลาดเคลื่อน แต่เป็นการกำหนดขนาดใหม่ที่ผู้ผลิตส่วนใหญ่เลือกใช้
  3. การเคลือบสังกะสี (สำหรับลวดกัลวาไนซ์): ลวดชุบกัลวาไนซ์มีการเคลือบชั้นสังกะสี ซึ่งจะเพิ่มความหนาของลวดขึ้นเล็กน้อย การเคลือบนี้อาจส่งผลให้ขนาดสุดท้ายแตกต่างไปจากลวดเหล็กเปล่า หรืออาจเป็นไปได้ว่าลวดเหล็กเปล่าก่อนชุบมีขนาดเล็กกว่าค่า BWG มาตรฐานอยู่แล้ว
  4. การยอมรับของตลาด: เมื่อผู้ผลิตส่วนใหญ่ผลิตลวดในขนาดที่เฉพาะเจาะจง และผู้บริโภคหรือผู้ใช้ในอุตสาหกรรมยอมรับและคุ้นเคยกับขนาดเหล่านั้น ขนาดเหล่านั้นก็จะกลายเป็น “มาตรฐาน” ที่ใช้สื่อสารกันในตลาดภายในประเทศไปโดยปริยาย

ตารางเปรียบเทียบ: เบอร์ลวด (BWG) สากล กับ ขนาดที่นิยมใช้ในประเทศไทย

เพื่อช่วยให้คุณเห็นภาพชัดเจนขึ้น นี่คือตารางเปรียบเทียบขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของเบอร์ลวด BWG มาตรฐานสากล กับขนาดที่นิยมใช้ในประเทศไทยสำหรับ ลวดชุบกัลวาไนซ์ ซึ่งเป็นประเภทลวดที่คุณน่าจะคุ้นเคยที่สุด:

เบอร์ลวด (BWG)เส้นผ่านศูนย์กลาง BWG มาตรฐานสากล (mm)เส้นผ่านศูนย์กลางที่นิยมใช้ในไทย (mm) (สำหรับลวดชุบกัลวาไนซ์)
64.88 – 5.165.00
74.47 – 4.574.40
84.193.89 – 4.00
93.763.65 – 3.70
103.403.20 – 3.25
113.052.92 – 3.00
122.772.65
132.412.35 – 2.40
142.112.00 – 2.05
151.831.80
161.651.60 – 1.72
171.471.40
181.251.20 – 1.25
191.071.05 – 1.07
200.89 – 0.910.88 – 0.90
220.710.71 – 0.73
240.56 – 0.590.50 – 0.56
260.460.46
280.360.30 – 0.36
300.30 – 0.310.30

มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) กับเบอร์ลวดในไทย

นอกจากการใช้ “เบอร์ลวด” ในการอ้างอิงอย่างไม่เป็นทางการแล้ว ประเทศไทยยังมี มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ซึ่งออกโดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) โดย มอก. จะกำหนดคุณสมบัติ ขนาด และวิธีการทดสอบสำหรับผลิตภัณฑ์ลวดประเภทต่างๆ อย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม มอก. ส่วนใหญ่จะระบุขนาดของลวดเป็น เส้นผ่านศูนย์กลาง (มิลลิเมตร) หรือ พื้นที่หน้าตัด (ตารางมิลลิเมตร) โดยตรงมากกว่าการใช้ระบบ “เบอร์ลวด” แบบเกจ นี่คือข้อแตกต่างที่สำคัญที่ชี้ให้เห็นว่าในระดับมาตรฐานอย่างเป็นทางการ ขนาดมิลลิเมตรคือสิ่งสำคัญที่สุด

สรุป

การที่เบอร์ลวดในไทย โดยเฉพาะลวดชุบกัลวาไนซ์ มีขนาดไม่ตรงกับ BWG สากลเป๊ะๆ นั้น ไม่ได้แปลว่าผิดพลาด แต่เป็นผลจากการปรับใช้และปฏิบัติในอุตสาหกรรมภายในประเทศ ซึ่งได้กลายเป็น “มาตรฐานปฏิบัติ” ที่ยอมรับกันนั่นเองครับ

คำแนะนำที่สำคัญ

  1. สื่อสารขนาดเป็นมิลลิเมตรเสมอ: เมื่อสั่งซื้อลวด หรือสั่งตะแกรง ควรระบุขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเป็นมิลลิเมตร (mm) ควบคู่ไปกับเบอร์ลวดเสมอ เช่น “ลวดชุบกัลวาไนซ์ เบอร์ 10 (3.2 มม.)” เพื่อป้องกันความสับสนและรับประกันความถูกต้องของสินค้า

การทำความเข้าใจความแตกต่างของ “เบอร์ลวดในไทย” นี้ จะช่วยให้ธุรกิจร้านตะแกรงของคุณดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ลดข้อผิดพลาด และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าในระยะยาวครับ

หากสนใจลวดและตะแกรงเหล็ก บริษัท กรุงเทพ ไวร์เวิร์ค จำกัด ยินดีให้บริการ เรามีความเชี่ยวชาญในเรื่องลวดตะแกรงและรั้วตาข่ายมายาวนานกว่า40ปี ไม่ว่าจะเป็น ตะแกรงอาร์ค ตะแกรงสาน ตาข่ายถัก หรือตาข่ายสำเร็จรูป ก็สามารถทักเข้ามาติดต่อสอบถามได้ครับ/ค่ะ


ติดต่อสอบถาม

Line Official : @Bkkww

Facebook : Facebook

เบอร์ติดต่อ : 02-219-4777,090-992-3131(คุณเค้ก)

บริษัท กรุงเทพ ไวร์เวิร์ค จำกัด